จากกรณีที่น.ส.ศศิธร ชูจิต อายุ 30 ปี ออกมาโพสต์ว่าลูกชายวัน 1 เดือน 8 วันโดนขโมยไป หลังอมรมงานและนำลูกติดไปด้วยเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) จนมีผู้แชร์ออกไปหลายพันคนนั้น ล่าสุด พบว่าน.ส.อิงอร กลิ่นชื่น อายุ 18 ปี ชาว จ.ตรัง เป็นคนเอาตัวเด็กไป โดยเล่าว่าตนเป็นแม่แท้ๆ และได้ตกลงรับตัวเด็กคืนจากน.ส.ศศิธร ก่อนหน้านี้แล้ว
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่น.ส.ศศิธร ได้ฝากเด็กไว้กับหัวหน้างานหลังจากอบรมเสร็จ เพราะต้องออกไปรับรถยนต์จากสามี
ขณะนั้นหัวหน้าโทรมาบอกว่ามีธุระข้างนอกจึงนำเด็กไปด้วย และตกลงจะนัดเจอเพื่อรับตัวเด็กที่ริมถนนชนเกษม ฝั่งขาเข้าเมือง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อรับเด็กมาแล้ว น.ส.ศศิธรเล่าว่ามีผู้หญิงมาขออุ้มลูกและแตะตัวตน จากนั้นก็ไม่รู้ตัวอีก มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่สามีโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของบริษัท และพบว่าลูกหายไปพร้อมด้วยเงินสด 4,000 บาท และมือถือส่วนตัวอีกเครื่อง ตนจึงได้โพสต์ลงโซเชียลขอความช่วยเหลือ
ด้านน.ส.ศศิธร ให้การยอมรับกับตำรวจว่าไม่ใช่แม่แท้ๆ ตนมาสวมรอยเลี้ยงดู เนื่องจากตนแท้งลูก และกลัวว่าครอบครัวสามีจะเสียใจและผิดหวัง เมื่อใกล้กำหนดคลอด ได้รู้จักกับน.ส.อิงอรที่มีปัญหาครอบครัวและประสงค์จะให้มีคนเลี้ยงลูกแทน จึงได้มีการตกลงกันโดยตนแสดงความประสงค์จะเลี้ยงลูกแทนอย่างไรก็ตาม น.ส.อิงอรได้นำเอกสารเข้าพบตำรวจเป็นใบสูติบัตร และข้อความแชตไลน์ที่มีการคุยกันเรื่องนัดรับตัวเด็กเพื่อมายืนยันความบริสุทธิ์ และยืนยันว่าเรื่องป้ายยานั้นไม่เป็นความจริง
คลิปกรรมติดจรวด? หนุ่มหัวร้อนตบพยาบาล ซิ่งแซงรถตู้ ชนบาดเจ็บสาหัส ส่งโรงพยาบาลเดิมมือตบพยาบาล แซงรถชน – เมื่อวานนี้ เกิดเหตุรถจักรยานยนต์แซงขวารถตู้ด้วยความเร็วสูง ชนเข้ากับรถยนต์ที่ขับสวนมา ทำให้นายศุภกร คุ้มรักษ์ อายุ 21 ปี ชาว จ.ระยอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่คนขับ อีซูซุ สีบรอนซ์เงิน คือ นางสาวปรียานุช บุญกลิ่น อายุ 25 ปี ชาวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย คอเคล็ด ที่เกิดเหตุถนนที่แยกมาจากถนนสาย 3245 ปลวกแดง-หนองใหญ่ ท้องที่หมู่ 5 ตำบลปลวกแดง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง สืบสวนทราบว่า นายศุภกร คุ้มรักษ์ อายุ 21 ปี เป็นคนเดียวกับในคลิปก่อนหน้านี้ ที่บันทึกภาพขณะเขาตบพยาบาล เนื่องจากมาโรงพยาบาลรักษาอาการเจ็บเท้าซ้าย แต่ไม่พอใจที่รอคิวนาน
ล่าสุดนายศุภกร ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้งจากอุบัติเหตุรถชนครั้งนี้
เตือนภัย! คอมฯแอร์ระเบิดที่เชียงใหม่ เจ็บหนัก 2 เลือดนองเต็มพื้น วันนี้ ( 11 มิ.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุคอมแอร์ระเบิดและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงเร่งประสานหน่อยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ประกอบอาชีพร้านขายของชำ อยู่บริเวณแยกทุ่งเสี้ยว ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งราย ทราบชื่อคือนายวิวัฒน์ ตันติฤทธิพร อายุ 65 ปี มีบาดแผลไหม้ที่บริเวณใบหน้า แขน และขา เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่ง รพ.สันป่าตอง ส่วนอีกรายทราบชื่อคือนายเกษม ตาลีกุย อายุ 54 ปี มีอาการได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลไหม้ตามร่างกายเกินกว่า 20% เจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.มหาราช มีมีอุปกรณ์เครื่องมือทันสมัยกว่า
จากการสอบสวนทราบว่า เจ้าของบ้าน ได้ว่าจ้างช่างแอร์ มาทำการตรวจเช็คระบบ ของเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ขณะที่ช่างแอร์ทำการอัดก็าซ เพื่อตรวจเช็คระบบแอร์อยู่ ตัวคอมแอร์ได้เกิดระเบิดขึ้น จนทำให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว ส่วนสาเหตุของการระเบิด เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ.
วัยรุ่นรุมทำร้ายพ่อค้ารถเร่ขายของ อ้างเสียงดังหนวกหู
เมื่อคืนวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมามีโพสต์จากเพจ บ้านเราบางนา ลาซาล แบริ่ง ว่าน้าของแอดมินเพจ ซึ่งเป็นพ่อค้ารถเร่ขายผักผลไม้ อายุ 53 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายจนเจ็บหนัก เพียงเพราะไม่พอใจที่มีเสียงประกาศขายของภายในหมู่บ้าน
โดยเหตุเกิดขึ้นในซอยลาซาล 81 ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ทางเพจเล่าว่าวัยรุ่นไม่ต่ำกว่า 5 คน อายุ 20-25 ปี ตั้งวงดื่มแอลกอฮอล์กันอยู่ แต่เกิดขัดใจเสียงประกาศขายของของรถเร่ จึงเริ่มจากเข้ามารื้อทำลายข้าวของในรถ จากนั้นก็ทำร้ายพ่อค้า ซึ่งพ่อค้าคนดังกล่าวพยายามวิ่งหนีออกมาทางปากซอยลาซาล 81 และโชคดีที่เจอกับรปภ.หมู่บ้าน จึงช่วยไว้ทัน ทั้งนี้ พ่อค้ามีอาการหัวแตก กระดูกจมูกแตก ตาปิด ปากแตก และฟกช้ำทั่วตัว เพจจึงได้ประกาศว่าหากมีใครที่มี่คลิปวีดิโอ หรือภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด หรือเห็นเหตุการณ์ ขอให้ช่วยติดต่อให้ข้อมูลด้วย
Grab แจง หนุ่มแกร็บไบก์โดนวินทำร้ายปากฉีก คนขี่แกร็บไม่ผิด คืบหน้า Grab bike โดนทำร้าย – จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เฟซบุ๊ก Ratsita View โพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กรูปชายขี่แกร็บไบก์มีบาดแผลฉีกยาวที่มุมปากดูน่ากลัว พร้อมข้อความว่า “เกินเรื่องเกินราว ขับGrab Bike ต้องโดนขนาดนี้เลยหรอ ? วินเกินกว่าเหตุ…”
คืบหน้าล่าสุด ทางบริษัท Grab ต้นสังกัดได้หนังสือชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา บริเวณบรรทัดทอง และทางผู้ขับขี่แกร็บไบก์ซึ่งถูกทำร้ายไม่ได้มีความผิดเหตุการณ์ครั้งนี้ บริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจและขอรณรงค์ให้ไม่มีการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยทำการสืบสวนและสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ทางบริษัทได้ดูแลผู้ขับขี่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนทำร้ายร่างกาย ตามมาตรการต่างๆ ของทางบริษัทที่ได้กำหนดไว้ และยินดีให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่หากมีการส่งหนังสือเข้ามายังบริษัท